15 May 2008

Tsukiji Fish Market - Shibuya

Japan 2007 : Day 10

เช้านี้ฝนตกอีกเช่นเคย แฉะอีกแล้วสิเนี่ย เฮ้อ.. แต่เราก็บ่ยั่น มีเสื้อฝนที่ซื้อมาเมื่อวานแล้วหนิจะกลัวอะไร ใช้มันให้คุ้ม เช้านี้จะไปลุยตลาดปลากันจ้ะ


Tsukiji Fish Market เป็นตลาดขายส่งปลาที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นห้องครัวสำหรับชาวโตเกียว 12 ล้านคน ตลาดปลาจะเริ่มคึกคักตั้งแต่ 5 โมงเย็นเรื่อยไปจนถึงดึก เพื่อรับอาหารสดและผลิตภัณฑ์อื่นๆ จากทั่วทุกมุมโลกที่ขนส่งมาทั้งทางรถ เรือ และเครื่องบิน ราวตี 3 ผู้ค้าจะเตรียมสินค้าสำหรับการประมูล โดยจะมีพ่อค้าขายส่งทำการตรวจคุณภาพและประเมินราคาสินค้าก่อน ตี5 ครึ่งก็จะเริ่มเปิดประมูลสินค้า ซึ่งผู้ประมูลสามารถรอรับสินค้าได้ภายในวันเดียวกันเลย


ประมาณบ่ายโมงจะเป็นช่วงพัก รถน้ำจะฉีดล้างทำความสะอาดเพื่อรองรับกิจกรรมรอบใหม่ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า นอกจากจะได้สัมผัสบรรยากาศการประมูลอาหารสดกันแล้ว ตลาดปลาซึกิจิ ยังเป็นแหล่งรวมร้านซูชิและอาหารญี่ปุ่นอร่อยๆ มากมาย เพราะมีข้อได้เปรียบตรงที่อยู่ใกล้กับแหล่งวัตถุดิบนี่เอง ดังนั้นวัตถุประสงค์ของเราในวันนี้ ก็มาเพื่อจะกินของอร่อยกันที่นี่น่ะแหละ 5555


เราเดินไปไม่ถึงแหล่งค้าส่งปลา มาหยุดกันแถวๆ ตลาดค้าปลีก ซึ่งจะมีร้านซูชิแทรกตัวอยู่ตามซอกซอย ตลาดที่เรามาเดินนี่ก็มีผลิตภัณฑ์ปลามากมาย หลายหลากให้เลือกซื้อ ในราคาที่ถูกกว่ามาก มากจริงๆ เพราะบางอย่างเห็นราคาจากในห้างมาแล้ว ราคาต่างกันลิบลับเลย อย่างปลาไหลย่างเนี่ย ที่นี่ขายถูกมาก ไม่ละไม่กี่ตัง ถ้าขายในร้านอาหารคงไม่ได้ราคานี้แน่ มีของขายเยอะแยะ ทั้งของสด ของแห้ง อาหารทะเลแบบแปรรูปแล้วก็มี เช่น ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง ลูกชิ้นปลาหมึก หลากหลายรูปแบบให้เลือกซื้อ




และมาจบที่ร้านคุณป้าคนนี้แหละ ป้าย่างหอยอะไรซักอย่างอยู่หน้าร้าน น่าจะเป็นหอยเชลล์นะ ตัวใหญ่โคตร กลิ่นหอมฉุยเตะจมูกมากๆ หอมจนทำเอาท้องร้องไปตามๆ กัน เลยแวะกินข้าวร้านนี้โดยไม่ต้องคิดมาก ข้างในร้านเป็นโต๊ะแบบบาร์ สวนใหญ่ลูกค้าที่เข้ามาในร้านจะมาคนเดียว ไม่งั้นก็ 2 คน เค้าก็จะนั่งกินที่บาร์กัน ถ้ามามากกว่านี้ก็ให้ขึ้นไปนั่งชั้น 2 ได้ แต่เรานั่งมันที่นี่หละ สะดวกดี


หอยเชลล์ที่ป้าย่างอยู่สุกได้ที่แล้ว แกก็ตัดแบ่งมาให้กินกันง่ายๆ ขนาดเท่าหอยเชลล์ตัวใหญ่ๆ ที่เคยเห็นถึง 4 ตัวเลย สุดยอดมาก เนื้อก็หวานและเคี้ยวมันมากๆ ส่วนอันที่เหมือนเป็นเมนูดังของร้าน เพราะมีรูปติดอยู่ เราก็ชี้ๆ เอาตามรูปที่อยากกิน ได้มาชามใหญ่เลยเป็นข้าวหน้าปลาดิบ ราดไข่ปลาให้อย่างจุใจ สีเหลืองๆ ที่เห็นเป็นไข่หอยเม่น บ้านเราขายแพงมาก ได้กินที่นี่ถือเป็นบุญปากแท้ๆ ปิ๊กกินเข้าไปถึงกับอุทานว่า.... "โอวว เหมือนมีทะเลอยู่ในปากเลย" แปลว่าสดมาก (หรือเค็มมากกันแน่วะ 55555) อีกอย่างเป็นเทมปุระรวม ชามโต อาหารที่นี่รอไม่นานก็ได้กิน เยี่ยมจริงๆ เค้าใช้ของทะเลสดๆ ทั้งปลาหมึก ปลาไหล กุ้ง หอย เอามาทอดแบบเทมปุระกรอบๆ ราดซอสโชยุรสหวานกลมกล่อม กินกับข้าวสวยร้อนๆ พูดแล้วน้ำลายจะหก อยากกินอีกรอบ


ส่วนอีกจานที่เด็ดมากๆ ไม่มีให้กินที่บ้านเราแน่ๆ นั่นก็คือ Makurokatsu เป็นเซ็ตที่มาพร้อมเครื่องเคียงอย่างยำสาหร่ายฮิจิกิ รากบัวต้มซีอิ๊ว ขิงดอง และข้าวสวยร้อนๆ เนื้อปลามากุโร่สด เนื้อหวาน นุ่มลิ้น เอามาทอดแบบทงคัตสึ ข้างนอกกรอบ ข้างในนุ่ม โห สวรรค์จริงๆ จานเด็ดของร้านอีกจาน มันคือชุดซูชิรวม มีทั้งข้าวปั้นหน้าปลาดิบหลากชนิด ข้าวห่อสาหร่ายหน้าไข่ปลา และไข่หอยเม่น ข้าวปั้นหน้าปลาไหลย่าง ที่มาในชุดให้ปลาไหลแล่เอาแต่เนื้อพาดมาทั้งตัวกันเลย สะใจมากๆ นอกจากนี้ในชุดยังมีน้ำซุปปู หวาน หอม กลมกล่อมให้อีกถ้วยนึงด้วย เรียกว่าสุดคุ้มจริงๆ เบ็ดเสร็จรวมค่ากินมื้อนี้อยู่ที่ 7,000 เยน ถือว่าไม่แพงเลยถ้าเทียบกับค่ากินมื้อเย็นวันก่อน อันนี้อย่างอิ่ม แล้วก็มีคุณภาพด้วย


มื้อนี้อิ่มแปล้กันสุดๆ สุดยอดไปเลย ระหว่างเดินกลับไปสถานีรถไฟก็ผ่านวัด Tsukiji Hongan-ji เลยแวะไปไหว้พระกันหน่อย ถ้าใครเป็นแฟน ฮิเดะ อดีตนักร้องวัยรุ่นชื่อดังของญี่ปุ่น ที่ฆ่าตัวตายไปเมื่อหลายปีก่อน อาจจะพอคุ้นหูกับชื่อวัดนี้อยู่บ้าง เพราะเป็นที่ตั้งศพของฮิเดะนั่นเอง ตอนนั้นเล่นเอาวัดเกือบแตก เพราะสาวกฮิเดะแห่แหนกันมาร่วมไว้อาลัยกันแน่นวัดทีเดียว


จากวัด เราก็เดินทางต่อมาที่ชิบูย่าอีกครั้ง เพื่อตามล่าหาร้านตุ๊กตาให้ไอปิ๊ก ยังไม่ทันถึงร้านตุ๊กตา ก็เจอสาวๆ ใส่ชุดเหมือนตุ๊กตาออกมาเดินเล่นกันซะแล้ว :D


เดินหาอยู่นานกว่าจะเจอ ต้องเดินไปไกลพอสมควร แต่ในที่สุดก็เจอจนได้ ข้างในร้านเต็มไปด้วยตุ๊กตาน่ารักๆ เพียบ แล้วปิ๊กกี้ก็สอยตุ๊กตาพร้อม accessory มาเพียบสมใจอยาก (ได้ข่าวว่าหมดไปเป็นแสนเลยนะเนี่ย 555)


แอบแวะซื้อขนมที่สถานีรถไฟก่อนกลับ ชูครีมนั่นเอง อยากลองกินดูว่าเจ้านี้จะอร่อยเหมือน Beard Papa รึเปล่า ก็ใช้ได้ รสชาติคล้ายๆ กันเลย



ถึงเวลานั่ง Shinkansen กลับเกียวโต ขึ้นรถไฟมาได้แบบหวุดหวิด เกือบตกรถไฟ เพราะใครบางคนมัวแต่ช้อปปิ้ง :P ปิ๊กไม่ค่อยเห่อของเล่นเท่าไหร่ ขึ้นรถปุ๊บก็แกะกล่องมาชื่นชมทันที นั่งจนเบื่อ เพราะไม่มีไรทำ นอกจากชมวิว 2 ข้างทาง และชื่นชมของเล่นใหม่ ตามประสาคนบ้าเห่อ 5555 แล้วก็ถึงเกียวโตตอนใกล้ค่ำ



ซื้อขนมจากโตเกียวมาฝากแม่ ยังไม่รู้เลยว่าข้างในเป็นอะไร มาแกะดูพร้อมๆ กันดีกว่า ข้างในเป็นห่อเล็กๆ เรียงกัน



แกะห่อออกมา ก็จะเจอขนมกลมๆ รูปร่างเหมือนไข่ ข้าวปุ้นแอบกลืนน้ำลาย อยากกินเต็มทีแล้ว 55555 ผ่าออกมาแล้ว ข้างในเป็นสีดำๆ แบบนี้ มันคือขนมไส้งาดำนี่เอง พอถ่ายเสร็จปุ๊บข้าวปุ้นก็ลงมือกืนเลย รอมานานแล้ว กินกันให้ฟันดำเลยนะ 5555 กินแล้วอร่อยดี หอมงาดำ แล้วก็ไม่หวานมาก เหมาะสำหรับซื้อไปฝากผู้ใหญ่จ้ะ


No comments: